ผลสำรวจ เจ้าของธุรกิจครอบครัวไทย เพื่อการสืบทอดอย่างยั่งยืน (ตอนที่1)

หลายท่านคงจะได้รับทราบถึงความคืบหน้า
หนังสือ "สูตรความสำเร็จ ธุรกิจครอบครัวไทยเพื่อการสืบทอดอย่างยั่งยืน"
ที่ผมได้ปรับปรุงใหม่ พิมพ์ครั้งที่ 2 หลังจาก 8 ปี จากการพิมพ์ครั้งแรก ได้ออกสู่ท้องตลาดแล้วเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
โดยเริ่มจากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ หนังสือเล่มนี้เป็นผลงานจากการเขียนเล่มแรกที่ใช้เวลา
9 ปี และใช้เวลาประมาณ 5 เดือนในการปรับปรุงฉบับเพิ่มเติม
ผมจึงขอถือโอกาสโฆษณาหนังสือนี้แก่ผู้สนใจที่อยากซื้อมาอ่าน
บทความวันนี้
ผมจะขอนำผลสำรวจความเห็นของเจ้าของธุรกิจครอบครัวกว่า 204 ครอบครัว
และสมาชิกในครอบครัวกว่า 408 คน
ที่เกิดจากแบบสอบถามในช่วงการบรรยายเรื่องกฎหมายจะช่วยธุรกิจครอบครัวให้เติบโตอย่างยั่งยืนในหลักสูตร
B Smart ที่จัดขึ้นโดย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กับลูกค้าจำนวน
30 รุ่น ที่จัดมากว่า 8 ปีแล้ว (แต่ผลสำรวจนี้
เริ่มมาจากรุ่น 13 ถึงรุ่น 30)
ข้อมูลจากผลสำรวจความเห็นนี้จะเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจครอบครัวและผู้เกี่ยวข้องที่นำมาใช้เพื่อวางแผนในการบริหารจัดการธุรกิจครอบครัวได้อย่างไรบ้าง
โดยคำถามหลักๆ
ที่ผมได้สอบถามมีคำถามหลักๆ อยู่ 14 ข้อดังนี้
ทั้งนี้ ผมจะขอนำคำถามและคำตอบของผลสำรวจแต่ละหัวข้อของเจ้าของธุรกิจครอบครัวไทยพร้อมความเห็นประกอบเพื่อเป็นแนวทางการประกอบธุรกิจต่อไป
1.สมาชิกครอบครัวกลุ่มใดจะก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดระหว่างบุคคลในครอบครัว 4 กลุ่ม
จาก 3
วงกลมของธุรกิจครอบครัวที่มีบุคคลในครอบครัว 4 กลุ่ม ผลสำรวจที่ว่า
บุคคลในครอบครัวที่อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้ง ในการทำธุรกิจครอบครัวมากที่สุด ผลสำรวจส่วนใหญ่ปรากฏว่า
ร้อยละ 36 เชื่อว่าบุคคลในกลุ่มที่ 7
ซึ่งเป็นทั้งผู้ถือหุ้นของธุรกิจครอบครัว เป็นสมาชิกในครอบครัวและเป็นผู้บริหาร
ของธุรกิจครอบครัวจะเป็นผู้
ก่อปัญหาก่อให้เกิดความขัดแย้งของธุรกิจครอบครัวมากที่สุด ผมเชื่อว่าวิธีแก้ไขคือ
การจัดให้มีกฎกติกาทางกฎหมายที่กำหนดสิทธิหน้าที่การบริหารจัดการอย่างโปร่งใสและชัดเจน
มีข้อสังเกตว่า ผู้ให้ความเห็นในการสำรวจส่วนใหญ่เป็นบุคคลกลุ่มที่ 7 จึงไม่แปลกใจกับผลสำรวจที่ว่าท่านเหล่านี้มักจะมองเห็นความผิดพลาดที่เกิดจากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ของตนเอง ผมเชื่อว่าหากธุรกิจครอบครัวไม่มีกฎกติกาชัดเจน บุคคลกลุ่มที่ 7 จะเป็นตัวปัญหาที่ก่อความขัดแย้งมากที่สุดเช่นกัน
2.ข้อพิพาทของธุรกิจครอบครัวเกิดขึ้นจากเรื่องใดมากที่สุด
ประเด็นเรื่องข้อพิพาทของสมาชิกในครอบครัวส่วนใหญ่คือ เกิดจากการสื่อสารถึงร้อยละ 52 ซึ่งใกล้เคียงกับผลสำรวจของต่างประเทศบอกว่าความล้มเหลวของธุรกิจครอบครัวที่เกิดจากการสื่อสารและความไม่ไว้วางใจกว่าร้อยละ 60 รองลงมาคือ เรื่องผลประโยชน์ ซึ่งผมมีความเห็นว่า แก้ไขโดยกระบวนการจัดโครงสร้าง การสื่อสาร และผลตอบแทนให้ชัดเจน ตามสูตร 6C ในส่วน Corporate Structure, Communication และ Compensation จะช่วยแก้ไขและป้องกันได้
3.ธุรกิจครอบครัวควรมีกระบวนการป้องกันแก้ไขข้อพิพาทของสมาชิกในครอบครัวอย่างไร
ผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่า การจัดโครงสร้างการกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่จะแก้ไขข้อพิพาทได้ดังคำกล่าวของนักวิชาการธุรกิจครอบครัวที่ว่า "โครงสร้างคือเพื่อน" Structure is a friend.
4.เวลามีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันระหว่างปัญหาธุรกิจกับปัญหาครอบครัวของสมาชิกในครอบครัว ท่านจะเลือกแก้ปัญหาโดยใช้หลักใด
ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าการลงคะแนนเสียงในธุรกิจครอบครัวเป็นเรื่องที่ควรใช้ให้น้อยที่สุด แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเด็นที่จะพิจารณาในแต่ละเรื่องเพราะในบางเรื่อง อาจต้องใช้หลักธุรกิจโดยต้องใช้วิธีการลงคะแนนหากเป็นเรื่องความอยู่รอดของธุรกิจครอบครัว
5.การจัดโครงสร้างธุรกิจครอบครัว เช่น การเลือกรูปแบบการถือหุ้นของสมาชิกในครอบครัว มีความสำคัญต่อการอยู่รอด และความเจริญของธุรกิจครอบครัวหรือไม่
ผลสำรวจส่วนใหญ่เห็นว่า
การจัดโครงสร้างสำคัญในการอยู่รอดทางธุรกิจครอบครัว แต่ทั้งนี้
ต้องมีกระบวนการสื่อสาร และการจัดสรรผลประโยชน์ที่เหมาะสมด้วย เข้าสูตร 6C ในส่วนของ Corporate Structure, Communication และ Compensation ดังนั้น หากประสานเรื่องดังกล่าวเข้าด้วยกันก็จะช่วยป้องกันปัญหาได้